การจัดสวนที่แคบ

การจัดสวนในที่แคบ

เชื่อว่าไม่มีอะไรที่ยากเกินความสามารถของมนุษย์เรา ถ้าตั้งใจที่จะทำ การจัดสวนในบ้าน ไม่จำเป็นจะต้องมีที่โล่งกว้าง พื้นที่มากมายอะไร เพียงแค่มีพื้นที่ก็สามารถจัดสวนในบ้านให้สวยได้เช่นกัน

แนวโน้มปัจจุบันของบ้านในเขตเมืองคือพื้นที่ทุกตารางนิ้วมีค่ามหาศาล บ้านหลายหลังให้ความสำคัญกับการใช้สอยพื้นที่ภายในมาก จนแทบจะไม่มีที่ให้สำหรับสวนภายนอก เหลือเพียงแค่พื้นที่จำกัดเป็นที่แคบๆ โดยรอบถูกทิ้งให้ว่างเปล่าเป็นทางเดิน หรือปลูกต้นไม้เพื่อให้ร่มเงาบังสายตาเท่านั้น

สวนที่นำมาเสนอในฉบับนี้เป็นสวนที่มีการออกแบบตกแต่ง และใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ในพื้นที่จำกัดให้เหมาะกับการใช้สอย พร้อมความสวยงามทางทัศนียภาพ โดยองค์ประกอบหลักของสวนแห่งนี้คือสระว่ายน้ำที่ถูกวางขนานไปกับตัวบ้าน เป็นสระแบบแคบเป็นแนวยาว แม้มีความกว้างเพียงประมาณ 3 เมตร แต่สามารถใช้เป็น Lap Pool สำหรับการว่ายน้ำออกกำลังได้ สำหรับที่นั่งเล่นริมสระมี 2 บริเวณที่ทำเป็นชานพัก เป็นส่วนเชื่อมต่อกิจกรรมระหว่างภายในและภายนอกตัวบ้าน
เรื่องวัสดุและสีนับว่าเป็นส่วนสำคัญในการกำหนดบรรยากาศของสวนนี้ การเลือกใช้สีโทนน้ำตาลเพื่อสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและสัมผัสที่เป็นธรรมชาติแก่ชานไม้ และใช้โทนสีเทาดำจากทั้งหินแกรนิตและปูนเปลือยสร้างความรู้สึกหนักแน่นมั่นคงและสงบนิ่งแก่พื้นที่ ร่วมกับสระว่ายน้ำสีฟ้าสดสร้างความสดชื่นและสว่างไสว ทำให้บรรยากาศของสวนดูสงบนิ่ง สดชื่นและเป็นธรรมชาติ

อีกเรื่องสำคัญสำหรับสวนในที่แคบคือการเลือกใช้พันธุ์พืชที่เหมาะสม ซึ่งจะช่วยสร้างบรรยากาศและลดความกระด้างของพื้นที่แคบและความแข็งของขอบเขต ในที่นี้ก็คือกำแพงนั่นเอง การปลูกต้นไทรเกาหลีสูงเกือบ 2 เมตรตลอดแนวรั้วให้เป็นกำแพงธรรมชาติสีเขียวที่นอกจากจะช่วยปิดบังกำแพงแล้ว ยังช่วยสร้างบรรยากาศสดชื่นที่เกิดจากการมองเห็นได้อีกด้วย ไม้อื่นๆ ที่เลือกเป็นสายพันธุ์ที่ปลูกและดูแลรักษาไม่ยาก เช่น ก้ามกุ้งสีทอง จั๋ง คล้า ปาล์ม ซึ่งช่วยเสริมสร้างบรรยากาศแบบ Tropical Garden ให้แก่สวนได้เป็นอย่างดี

ดูแลบ้านอย่างไรไม่ให้โทรม

การดูแลบ้านอย่างไรไม่ให้โทรม

การดูแลบ้านอย่างไรไม่ให้โทรม

คนวัยทำงานใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่นอกบ้าน จันทร์ถึงศุกร์ก็อยู่ที่ทำงาน กว่าจะกลับบ้านก็หมดแรงทำอย่างอื่น ส่วนเสาร์อาทิตย์ก็ต้องออกไปพบปะเพื่อนฝูง หรือหากิจกรรมผ่อนคลายความเครียด จึงไม่แปลกที่บ้านของคนวัยทำงานมักไม่ได้รับการดูแลอย่างดีเท่าที่ควร แต่ควรหาเวลาว่างเพื่อตรวจเช็ก 3 สิ่งสำคัญที่ช่วยรักษาบ้านของคุณไม่ให้โทรมจนเกินไป

วัสดุ

ไม่ว่าจะใช้ไม้หรือคอนกรีตสร้างบ้าน แต่วัสดุเหล่านี้ก็มีวันเสื่อมสภาพหรือหมดอายุการใช้งานได้เหมือนกัน ดังนั้น ต้องหมั่นดูแลรักษาเพื่อถนอมอายุการใช้งานให้นานที่สุด หากบ้านสร้างจากไม้ควรหมั่นเช็ด ถู และทาน้ำมันเพื่อรักษาระดับน้ำมันตามธรรมชาติในเนื้อไม้ สำหรับบ้านคอนกรีตควรตรวจสอบว่ามีส่วนใดของผนังผุ กร่อน หรือมีสีหลุดร่อนหรือไม่ ถ้ามีควรรีบทาสี หรืออุดซ่อมแซมด้วยวัสดุที่ยืดหยุ่น เข้ากันได้ดีกับคอนกรีต เพื่อป้องกันฝนกรดกัดกร่อนจนผนังแตกร้าว มีน้ำรั่วซึมเข้าไปได้ในภายหลัง

ระบบของเสีย

ท่ออ่างล้างจาน อ่างล้างหน้า หรือระบบสุขภัณฑ์มักอุดตันจากเศษของเสียที่สะสมอยู่ ถ้าไม่ระบายออกอาจเกิดกลิ่นเหม็นและเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค ควรตรวจสอบว่าท่อระบายของเสียในบ้านอุดตันหรือไม่ ถ้ามีควรใช้สารเคมีช่วยละลายของเสีย ใช้ปั๊มอัดแรงลมดันของที่อุดตันอยู่ในไหลออกไป หรือใช้อุปกรณ์อื่นๆ ล้วง – ทะลวงของเสียที่คั่งค้างอยู่

ระบบไฟฟ้า

อันตรายที่อาจสร้างความเสียหายให้บ้านอย่างร้ายแรงคือระบบไฟฟ้าลัดวงจร การใช้ไฟเกินขนาด การละเลยสายไฟชำรุด หรือแม้แต่การปล่อยให้น้ำรั่วซึมจนไหลไปโดนสายไฟอาจทำให้เกิดไฟช๊อตและไฟไหม้ตามมา การป้องกันเบื้องต้นคือใช้ไฟในบ้านแต่พอดี รวมทั้งคอยตรวจดูสายไฟ ระบบไฟในบ้านให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์เรียบร้อยอยู่เสมอ

รู้ก่อนใช้บริการรับสร้างบ้าน

รู้ก่อนใช้บริการรับสร้างบ้าน

รู้ก่อนใช้บริการรับสร้างบ้าน

แม้ปัจจุบันโครงการอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่จะมีบ้านสำเร็จรูปให้เลือกซื้อได้ตั้งแต่แบบแปลนภายนอกถึงการตกแต่งภายใน แต่หากต้องการบ้านที่ตอบโจทย์โดนใจแบบบ้านในฝัน บริการรับสร้างบ้านยังคงเป็นทางเลือกที่เรานึกถึง

ลองดูกันว่า สิ่งที่เราต้องเตรียมตัวรู้ก่อนใช้บริการรับสร้างบ้านมีอะไรบ้าง

• รู้เขา
ก่อนจะต้องเผชิญกับปัญหาบ้านที่ได้รับไม่ตรงตามสัญญาหรือผู้รับเหมาทิ้งงาน อันดับแรกเราจำเป็นต้องรวบรวมข้อมูลของผู้ให้บริการรับสร้างบ้านในตลาดทั้งหมด โดยเฉพาะบริษัทที่ไม่เคยมีประวัติเสียด้านการให้บริการมาก่อน ตรวจสอบใบอนุญาตก่อสร้างและใบอนุญาตทางธุรกิจ ก่อนจะคัดเลือกผู้ให้บริการรับสร้างบ้านอย่างน้อย 2-3 ราย เพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างต้นทุนการก่อสร้าง คุณภาพของงาน ความสะดวกและความพึงพอใจในการใช้บริการ

สำหรับรายละเอียดที่ใช้เปรียบเทียบส่วนใหญ่ผู้ให้บริการมักให้ข้อมูลที่แสดงถึงความเป็นมืออาชีพและความสามารถในงานก่อสร้างอย่างเต็มที่ เช่น ในบางบริษัทอาจจะมีแบบบ้านให้เลือกเกือบ 1,000 รูปแบบ และคิดราคาให้บริการเป็นตารางเมตร ช่วยให้เราสามารถนำมาคิดเปรียบเทียบได้ง่ายขึ้น รวมถึงเราควรพิจารณาในรายละเอียดด้านระบบการบริหารและจัดการของบริษัทให้บริการรับสร้างบ้าน ตารางการก่อสร้างที่เป็นลำดับขั้นตอน ลักษณะการทำงานว่าเป็นผู้ก่อสร้างเองหรือให้ผู้รับเหมาช่วง พร้อมทั้งจำนวนร้านค้าตัวแทนจำหน่ายวัสดุก่อสร้างในเครือข่ายที่พร้อมให้การสนับสนุนด้านวัสดุ

ทั้งหมดนี้ควรใช้เวลาพิจารณาอย่างค่อยเป็นค่อยไป และใช้ความระมัดระวังรอบคอบมากที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดข้อยุ่งยากตามมาในภายหลัง

• รู้เรา
นอกเหนือจากการมองหาผู้ให้บริการรับสร้างบ้านที่ดีและตอบโจทย์แล้ว บ้านในฝันจะเป็นจริงได้ยังขึ้นอยู่กับการนำเสนอแนวคิดและรูปแบบบ้านที่ต้องการ รวมถึงการปรึกษาหารือกับผู้ให้บริการรับสร้างบ้านถึงความเป็นไปได้และระยะเวลาการก่อสร้างให้ได้ตามที่กำหนด ตลอดจนขนาดของงานก่อสร้าง และงบประมาณที่ใช้ เพื่อคำนวณต้นทุนออกมาเป็นตารางเมตร ซึ่งผู้ให้บริการรับสร้างบ้านอาจจะสอบถามในรายละเอียดเพิ่มเติม เช่น จำนวนและอายุของผู้อยู่อาศัยในบ้าน เพื่อกำหนดจำนวนห้องนอน ห้องน้ำ ขนาดของห้องครัวหรือห้องอื่นๆ ที่ต้องการใช้งาน พร้อมทั้งรายละเอียดเทคโนโลยีการก่อสร้างและวัสดุก่อสร้าง เช่น แผ่นพื้นสำเร็จรูปที่ผู้ให้บริการนิยมนำมาใช้เพื่อลดต้นทุนการผลิตและช่วยให้ขั้นตอนการก่อสร้างรวดเร็วขึ้น

 

• ทำสัญญาว่าจ้าง
หลังจากสรุปรายละเอียดและความต้องการทั้งหมดกับผู้ให้บริการรับสร้างบ้านแล้ว เราจำเป็นต้องใส่รายละเอียดทั้งหมดไว้ในสัญญาว่าจ้าง โดยครอบคลุมตั้งแต่เริ่มให้บริการจนกระทั่งก่อสร้างโครงการสำเร็จ การกำหนดวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้าง ระยะเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุด งบประมาณที่ต้องใช้หรือมูลค่างานก่อสร้าง ซึ่งส่วนใหญ่จะกำหนดจ่ายชำระเป็นงวดตามความคืบหน้าของงานในแต่ละช่วง โดยสัญญาจะกำหนดให้มีการตรวจรับงานเป็นระยะ เพื่อควบคุมความคืบหน้าของงานก่อสร้าง รวมถึงข้อกำหนดและเงื่อนไขพิเศษกรณีที่เราต้องการแก้ไขเพิ่มเติม หรือการชดใช้กรณีผู้ให้บริการรับสร้างบ้านผิดสัญญาหรือไม่ทำตามข้อตกลง

• ติดตามความคืบหน้าของงาน
เมื่อทำสัญญาว่าจ้างและเริ่มก่อสร้างแล้ว เรายังจำเป็นต้องติดตามความคืบหน้าของงานอย่างใกล้ชิดเป็นระยะ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหายุ่งยากตามมาในภายหลัง เช่น บ้านก่อสร้างไม่ทันตามกำหนดระยะเวลา ผู้รับเหมาทิ้งงาน หรือบ้านไม่ตรงตามที่ตกลงกันไว้ โดยควรแบ่งเวลาเดินทางตรวจงานบริเวณก่อสร้างอย่างน้อย 3 ครั้งก่อนส่งมอบงาน เพื่อตรวจสอบขั้นตอนการทำงาน และแนวทางการก่อสร้างให้เป็นไปตามสัญญาหรือข้อตกลง

• การตรวจรับมอบบ้านและแก้ไขงาน
ก่อนเซ็นสัญญาตกลงรับมอบบ้าน เราควรตรวจสอบการก่อสร้างงานแต่ละส่วนอย่างละเอียดถี่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็น การเดินสายไฟ เพดาน ผนัง ความละเอียดของการทาสี การฉาบปูนที่ต้องมีความเรียบร้อยสม่ำเสมอ หากพบข้อบกพร่องก็สามารถทำเครื่องหมาย เพื่อแจ้งกับผู้ให้บริการแก้ไข รวมถึงการตรวจสอบวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ภายในบ้าน เช่น การติดตั้งประตูหน้าต่าง ความเรียบร้อยของพื้น รอยต่อหรือรอยเปื้อนต่างๆ และความแข็งแรงทนทาน ซึ่งหลังจากตรวจสอบและแจ้งการแก้ไขแล้ว เราควรกำหนดระยะเวลาในการดำเนินการอย่างชัดเจน โดยส่วนใหญ่งานก่อสร้างจะมีช่วงเวลารับประกันผลงานตามประเภทของงาน เมื่อแก้ไขเรียบร้อย เราจึงสามารถนัดทำสัญญาส่งมอบงานได้

ท้ายสุด สิ่งสำคัญของการใช้บริการรับสร้างบ้าน คือ ความใส่ใจและให้เวลาในแต่ละขั้นตอน ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นคัดเลือกผู้ให้บริการ การก่อสร้าง กระบวนการร่างสัญญาที่ชัดเจนและรัดกุม การติดตามการก่อสร้างหรือการทำงานให้เป็นไปตามข้อตกลง รวมถึงขั้นตอนการตรวจรับมอบบ้าน และสั่งดำเนินการแก้ไขทันทีเมื่อพบความผิดปกติหรือข้อบกพร่อง เพื่อให้ได้บ้านในฝันที่ตอบโจทย์ตามความต้องการอย่างแท้จริง